วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง-poomai


   ได้เวลาไปกางเต็นท์เที่ยวภูดูทะเลหมอกอีกครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ผาหำหด จ.ชัยภูมิ แต่พอสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานบอกว่าไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนักเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก ตามไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง



   ทุ่งแสลงหลวง หรือที่รู้จักกันดีในนาม ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทยเป็น อุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 789,000 ไร่หรือ 1,262.40 ตารางกิโลเมตร ทุ่งแสลงหลวงมีพื้นที่ ครอบคลุม อ.วังทอง อ.นครไทย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และใน อ.เขาค้อ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ สำหรับชื่อ ของอุทยานแห่งชาติมีการสันนิษฐานว่ามีการตั้งชื่อตามพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่ มีอยู่ในพื้นที่ป่าแห่งนี้ คือ ต้นแสลงใจ ซึ่งมีขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีสภาพภูมิประเทศเป็นเนิน มีป่าหลายชนิด และสัตว์ป่าชุก
 






 กางเต็นท์เสร็จเรียบร้อยก็เดินทางไปที่ทุ่งนางพญา หรือมีชื่อเต็มว่าทุ่งนางพญาเมืองเลนถือเป็นป่าสนสองใบตามธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของเมืองไทย เพื่อชมความงาม ผ่านเส้นทางที่สมบุกสมบันพอสมควร ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 14 กิโลเมตร



  จุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก่อนที่จะไปถึงทุ่งนางพญาระหว่างทาง จะมีจุดชมวิวที่เรียกว่าศาลาดุสิตาจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าอันโดดเด่นของทุ่งแสลงหลวง 


  ที่นี่เมื่อมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของท้องทุ่งหญ้า และเขาย่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ เบื้องหน้า ความสวยงามของธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้าคุ้มค่ากับการเดินทางมาเที่ยวชมจริงๆ


   มาถึงแล้วก็ถ่ายภาพหมู เฮ้ยไม่ใช่ ภาพหมู่ เอาไว้อวดหน่อย




   ระหว่างทางมีความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างให้ได้ชื่นชมเป็นระยะ





   จอดรถลงมาดูชัดๆ ซิว่า ต้นสนอะไรมันจะสูงใหญ่ป่านนี้






  ถึงแล้ว ทุ่งนางพญา สถานที่นี้นอกจากเต็มไปด้วยต้นสนต้นใหญ่อันสูงตระหง่านที่ขึ้นเรียงรายอย่างเป็น ระเบียบแล้ว บริเวณใต้ต้นสนบางช่วงยังมี ต้นหญ้า ดงเฟิร์น ขึ้นเรียงราย  นับเป็นมนต์เสน่ห์แห่งต้นไม้ใหญ่และต้นหญ้าที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างสรรค์ออกมาอย่างกลมกลืน ลงตัว สวยงาม

  เมื่อก่อนที่ทุ่งนางพญาแห่งนี้สามารถเข้ามากางเต็นท์ได้ แต่เนื่องจากด้วยความไม่สะดวกทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่จะให้บริการ และตัวนักท่องเที่ยวเองทางอุทยานฯก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไปกางเต็นท์ จึงมีเพียงการเข้าไปเที่ยวแล้วก็กลับออกมา








    ช่วงเดินทางกลับฝนทำท่าว่าจะตก สุดท้ายก็ตกจริงๆ



    ช่วงเย็นมีฝนตกลงมาเล็กน้อยแต่ก็เล่นเอาวุ่นวายกับการรับมือกับน้ำฝนอยู่พอสมควร และใจเสียไปบ้างเกรงว่าจะตกในช่วงกลางคืน แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ฝนตกได้ไม่นานก็หยุด 



    หลังทานข้าวเสร็จก็นั่งคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ บางทีการที่เราได้มาเที่ยวด้วยกัน มานอนด้วยกันมันทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น คืนนี้ค่อนข้างเย็นสบาย พอตกดึกก็รู้สึกหนาวเหมือนกัน 



   เช้าของวันใหม่ พอโผล่หัวออกมาจากเต็นท์ ถึงกับอุทาน โอ้!! มายก๊อต  หมอกเต็มไปหมดเลย ตื่นเช้ากับบรรยากาศอันสดชื่น ทุ่งแสลงหลวงยามนี้ปกคลุมไปด้วยไอหมอก อากาศเย็นสบาย 




   ออกสำรวจพื้นที่โดยรอบเก็บภาพความสวยงาม ความประทับใจในหลายๆเรื่องผ่านเลนส์กล้อง แสงแดดทะลุสายหมอกยามเช้า บรรยากาศที่ชวนให้หลงใหล 






   ที่นี่มีบ้านพักอยู่หลายหลัง มีบริการจักรยานให้เช่าปั่นเที่ยวชมบริเวณโดยรอบอุทยานฯ มีร้านอาหาร และผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแม่บ้าน 


   หลังจากเดินเที่ยวเสร็จก็ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนที่จะมานั่งทานกาแฟ และอาหารเช้าจากฝีมือพ่อครัวมืออาชีพ ท่ามกลางความสวยงามของทุ่งหญ้าสะวันนา บันทึกเก็บเป็นความทรงจำดีๆเอาไว้ 




   งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา การมาเที่ยวป่าก็ต้องอำลาจากไปเช่นกัน เก็บข้าวของขึ้นรถพร้อมกับโบกมือลาหันหลังให้ป่ามุ่งหน้าเข้าเมือง บายๆ ทุ่งแสลงหลวง